พระธรรม เศคาริยาห์
บทที่ 9:9-17 กษัตริย์ในอนาคต
ชาวนครศิโยนไกลโพนนี้ จงยินดีปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
เยรูซาเล็มจงโห่ร้องกึกก้องครัน กษัตริย์ของท่านเสด็จตรงลงมา
เสด็จด้วยชัยชนะ ธ สูงส่ง แต่พระองค์ทรงลาพลันผันมาหา
ด้วยพระทัยอ่อนน้อมถ่อมกายา ทรงลูกลาเหยาะย่างเท้าเข้านคร
อิสราเอล รถศึกเราจะเอาไป ขับม้าไกล เยรูซาเล็ม ไล่เต็มที่
ธนูศึกทำลายสิ้นหมดชิ้นดี พระภูมีดลสันติภาพอาบชาติมวล
ทรงปกครองทะเลนี้ที่ลึกซึ้ง ไปจนถึงทะเลโน้นไกลโพ้นถ้วน
จากแม่น้ำยูเฟรติสเป็นขบวน ถึงจวบจวนปลายพิภพจบโลกา
ประชากรของพระเจ้าจะกลับสู่สภาพเดิม
พระเจ้าทรงมีรับสั่งว่า
“พันธสัญญาเราทำให้เจ้าเห็น โลหิตเป็นเครื่องบูชาตีตราให้
จะปล่อยชนพ้นบ่อแห้งแล้งทั่วไป ซึ่งเปรียบได้แก่การเป็นเช่นเชลย
กลับเถิดเชลยความหวังยังมีอยู่ กลับไปสู่ที่ปลอดภัยอย่าได้เฉย
เราใช้ท่านมากกว่าเก่าสองเท่าเลย พวกที่เคยทุกข์ใหญ่ได้พรครัน
อัน ยูดาห์ เราใช้เช่นเป็นทหาร ที่ชำนาญใช้ธนูอยู่คงมั่น
ใช้อิสราเอลเป็นลูกธนูยิงพรูพลัน ศิโยนนั้นเหมือนใช้ดาบปราบทหารกรีซ”
ธ ปรากฏเหนือประชากรทรงมาสู่ ลูกธนูยิงคล้ายสายฟ้านั่น
สดับเสียงแตรเดินทัพโดยฉับพลัน จากใต้นั้นเข้าไปสู่พายุคะนอง
พระผู้ทรงมหิทฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์นัก ทรงปกปักประชาไท้พ้นภัยผอง
เขาทำลายล้างศัตรูผู้ลำพอง พลางโห่ร้องเหมือนคนเมาเข้าสงคราม
โลหิตของมวลหมู่ศัตรูสิ้น จะไหลรินล้นนองนักเกินจักห้าม
เหมือนเลือดจากเครื่องบูชาหน้าแท่นงาม เทจากชามลงสู่แท่นบูชา
ถึงวันนั้นทรงช่วยชนคนของไท้ เช่นผู้เลี้ยงช่วยแกะให้พ้นภัยล่า
ในแดนเขาส่องสว่างกระจ่างตา ดุจเพชรมาประดับมงกุฎสุดเลิศลอย
ดินแดนนั้นแสนอุดมสมบูรณ์ยิ่ง งดงามจริงค่าล้ำไม่ต่ำต้อย
เหล้าองุ่นข้าวมากมีดีไม่น้อย หนุ่มสาวพลอยเจริญแรงแข็งแกร่งดี
บทที่ 10:6-12
“เราจะทำให้ยูดาห์กล้าแข็งด้วย และจะช่วยอิสราเอลเป็นสุขสันต์
จะสงสารเมตตาปรานีครัน นำเขานั้นกลับสถานบ้านเรือนตน
เขาจะเป็นเหมือนเช่นเราเฝ้าห่วงยิ่ง ไม่เคยทิ้งให้เขาเศร้าหมองหม่น
เราเป็นพระเจ้าของเขาเนาเบื้องบน ตอบสนองคำคนบ่นภาวนา
อิสราเอลแกร่งเช่นทหารชำนาญสู้ สุขเหมือนผู้ดื่มเหล้ากรุ่นองุ่นกล้า
ลูกหลานจำความมีชัยได้ทุกรา ปลื้มนักหนาในกิจองค์ทรงฤทธี
เราจะเรียกประชามารวมไว้ เราจอมไท้จะช่วยปันสรรสุขี
ทำให้เขามีคนเพิ่มเสริมชีวี เหมือนดังที่เคยเป็นมาคราก่อนนั้น
แม้เราให้เขากระจายสู่หลายชาติ ยามนิราศแดนไกลใฝ่ใจมั่น
เขากับลูกหลานรอดตายสายสัมพันธ์ มารวมกันกลับบ้านถิ่นฐานตน
อยู่อียิปต์ อัสซีเรีย เสียนานช้า เรานำหน้ากลับสถานบ้านเริ่มต้น
เราให้ตั้งภูมิลำเนาเจ้าทุกคน ร่วมกมลอยู่ในเขตประเทศตัว
ให้ตั้งที่ กิเลอาด ชาติเก่าก่อน เลบานอนด้วยครันรวมกันทั่ว
ทั้งประเทศคนอนันต์ผูกพันพัว ทุกครอบครัวอยู่เต็มไปในแผ่นดิน
ผ่านทะเลยุ่งยากนี้เราตีคลื่น น้ำไนล์ตื้นเขินแห้งแล้งขอดสิ้น
อัสซีเรีย ยโสยอมถ่อมชีวิน อียิปต์ถิ่นสิ้นอำนาจเด็ดขาดลง
เราจะดลบันดาลเขาเหล่าประชา ของเรากล้าแกร่งดังหวังประสงค์
พวกเขาจะนมัสการมานจำนง เชื่อมั่นคงฟังเราเฝ้าสักการ”
เราผู้เป็นพระเจ้า ตรัสดังนี้แหละ
บทที่ 11:1-3 ผู้ปกครองที่กดขี่สิ้นอำนาจ
เลบานอนเปิดประตูดูเถิดเจ้า เพื่อเพลิงเผาต้นสีดาร์พฤกษาใหญ่
จงร้องไห้เถิดต้นสนสามใบ สีดาร์ไม้ โค่นลงมาน่าเสียดาย
ต้นไม้งามถูกผลาญรานทั่วแดน โอ๊กแห่งแคว้นบาชานพาลใจหาย
จงร้องไห้คร่ำครวญอยู่มิรู้คลาย ป่าทึบวายถูกโค่นลงราบพลัน
ผู้ปกครองร้องระงมระทมทุกข์ ไร้ความสุขสิ้นศักดิ์ศรีที่มีนั่น
สิงห์คำรามตามลุ่มน้ำจอร์แดนครัน ป่าดงมันอยู่สลายทำลายลง